. . . องค์หญิงน้อยกับจอมยุทธ์สุดหล่อ . . .
ณ อุทยานในพระราชวังแกนดิเวียร์ ที่อุดมไปด้วยเหล่าดอกไม้นานาชนิด ผลิดอกบานสะพรั่ง หลากสีสันสวยงามนาชม แต่ความงามของดอกไม้เหล่านั้นก็หาได้งามเทียบเท่ากับองค์หญิงผู้เลอโฉมวัย 16 ชันษา ซึ่งประทับอยู่บนชิงช้าที่ผูกไว้กับต้นโอคต้นใหญ่กลางอุทยานไม่ องค์หญิงวาเลนไทน์ ผู้ซึ่งได้ชื่อว่ามีรูปโฉมงดงามราวกับเทพธิดาลงมาจุติ ด้วยผิวพรรณที่ขาวนวลเนียน บริสุทธิ์ผุดผ่องดุจดังละอองหิมะ รูปร่างบอบบาง อรชรอ้อนแอ้น ดูน่าทะนุถนอม เป็นธิดาเพียงองค์เดียวของกษัตริย์วาเลนเทียร์
“ องค์หญิงเพคะ ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้เข้าเฝ้าเพคะ ” เสียงของมารีน นางกำนัลที่เป็นเสมือนพี่เลี้ยงคนสนิทขององค์หญิงกำลังส่งเสียงเรียกอยู่ทางด้านหลัง องค์หญิงวาเลนไทน์หันมาตามเสียง แต่ยังคงไกวชิงช้าเบาๆ อยู่
“ เสด็จพ่อมีเรื่องอะไรหรือมารีน ถึงได้ให้ข้าเข้าเฝ้า หวังว่าคงจะไม่ใช่เรื่องการเลือกคู่อะไรนั่นอีกหรอกนะ ” มารีน ก้มหน้าหลบสายตาแล้วกล่าวเบาๆ
“ เกรงว่าจะเป็นเช่นนั้นแหละเพคะ เมื่อครู่หม่อมฉันเห็นพวกทหารพาบรรดาเจ้าชายจากเมืองต่างๆ มาเข้าเฝ้าจนเต็มท้องพระโรง
อ๊ะ
องค์หญิงเพคะ รอหม่อมฉันด้วยเพคะ ”
ยังไม่ทันจบประโยคดี องค์หญิงน้อยก็กระโดดพรวดลงจากชิงช้า แล้วรีบวิ่งตรงดิ่งไปยังท้องพระโรง พลางทำปากขมุบขมิบบ่นพึมพำไปตลอดทาง โดยมีมารีนวิ่งตามไปติดๆ พลางรำพึงในใจว่า ลององค์หญิงวิ่งเร็วจี๋ราวกับติดจรวดไปอย่างนี้ คงได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นอีกเป็นแน่
ณ ท้องพระโรงพระราชวังแกนดิเวียร์ บรรดาเจ้าชายจากเมืองต่างๆ กำลังเข้าเฝ้ากษัตริย์วาเลนเทียร์ พลันเสียงเปิดประตูท้องพระโรงก็ดังขึ้น ตามติดมาด้วยเสียงกังวานใส ที่นำมาก่อนตัวขององค์หญิงวาเลนไทน์ ทำเอาบรรดาเจ้าชายแต่ละองค์ถึงกับสะดุ้งโหยง ด้วยความตกใจไปตามๆ กัน
“ เอาอีกแล้วนะเสด็จพ่อ พูดไม่รู้เรื่องหรือไง ลูกบอกว่าไม่แต่งๆ เจ้าชายแต่ละคน ของเมืองแถบนี้ นอกจากหน้าตาไม่ได้เรื่อง ซ้ำฝีมือดาบยังอ่อนหัดเสียอีก ”
สิ้นเสียงของวาเลนไทน์ ทำเอาบรรดาเจ้าชาย ต่างหน้าจ๋อย ตัวลีบแบนเหมือนตุ๊กตากระดาษ เพราะถูกแทงใจดำ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะองค์หญิงวาเลนไทน์นอกจากจะได้ชื่อว่า มีรูปโฉมงดงามอย่างหาที่ติไม่ได้แล้ว ความสามารถในฝีมือการประดาบ ก็ไม่เป็นสองรองใครในแว่นแคว้น ละแวกใกล้เคียงอีกด้วย
“ ไม่เอาน่าวาเลนไทน์ ก็ฝีมือดาบของเจ้านั้นเลิศเลอออกปานนี้ มีรึที่ใครจะมาเทียบฝีมือกับลูกของพ่อได้ จะมีก็แต่แม่ของเจ้าที่เป็นยอดนักดาบแห่งอาณาจักรคาร์เมโนเลีย เมืองแห่งสตรียอดนักดาบ ผู้ที่มีฝีมือดาบเก่งกาจไม่เป็นรองใครนั่นแหละ แล้วแม่ของเจ้าก็เป็นผู้ถ่ายทอดเพลงดาบ love angel ให้กับเจ้าเพียงคนเดียว จะมีใครสู้กับเจ้าได้ล่ะ พ่อว่าเจ้าเลือกเจ้าชายที่มีชาติตระกูลดี แล้วก็ร่ำรวยจะดีกว่ามั้ยลูก ” กษัตริย์วาเลนเทียร์ตรัสด้วยสุรเสียงแผ่วเบาในประโยคท้าย
“ ไม่เอาๆ ก็ข้าไม่อยากแต่งงานกับพวกเจ้าชายฝีมือเหลาะแหละ ที่วันๆ เอาแต่เสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองอย่างเดียวนี่นา ข้าน่ะอยากจะแต่งงานกับผู้ที่มีความฉลาดปราดเปรื่อง ไหวพริบยอดเยี่ยม ฝีมือดาบเลิศเลอไม่ด้อยไปกว่าข้า
แล้วที่สำคัญก็ต้อง รูปหล่อมาดเท่ห์ ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มละลายหัวใจหญิงสาวผู้อ่อนไหวอย่างข้า
อา
ท่านเทพบุตรของข้า
ท่านอยู่ที่ไหนกันนะ รีบมาขอข้าแต่งงานเร็วๆสิ จะได้ไม่ต้องมาเจอกับพวกเจ้าชายผักปลาอย่างพวกนี้ ”
องค์หญิงน้อยทำท่าเคลิบเคลิ้ม หลับตาพริ้ม วาดฝันถึงชายในฝันอย่างแสนสุข ในขณะที่บรรดาเจ้าชายหนุ่มรูปงามเหล่านั้น กลายเป็นผักเป็นปลาในสายตาของเธอไปซะแล้ว ฝ่ายกษัตริย์วาเลนเทียร์ได้แต่กุมขมับด้วยความอ่อนใจในความดื้อรั้นเอาแต่ใจขององค์หญิงน้อย ที่มีบุคลิกถอดแบบมาจากพระราชมารดาไม่มีผิดเพี้ยน
“ เอาล่ะวาเลนไทน์ พ่อจะให้เจ้าเลือกคู่เองก็ได้ เหล่าทหารจงไปป่าวประกาศว่า
ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป จะมีการจัดประลองดาบ ใครก็ตามที่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ทั้งหมดรวมถึง เพลงดาบขององค์หญิงวาเลนไทน์ได้ จะได้สมรสกับองค์หญิงและข้าก็จะมอบหัวเมืองแถบใต้ให้ปกครองด้วย ”
กษัตริย์หนุ่มใหญ่ตรัสกับเหล่าเสนาบดีทั้งหลาย แล้วจึงคร่ำครวญถึงพระชายาสุดที่รักของพระองค์ ว่าไม่น่าด่วนจากไป ทิ้งภาระอันหนักอึ้งในการดูแลองค์หญิงน้อยไว้ให้พระองค์แต่เพียงผู้เดียว ส่วนองค์หญิงวาเลนไทน์นั้นยิ้มกริ่มอย่างพอพระทัยเป็นที่สุด แล้วจึงเสด็จกลับตำหนักโรสแมรี่ พร้อมกับมารีนเพื่อเตรียมตัว ฝึกปรือฝีมือให้ชำนาญและแข็งแกร่งกว่าเดิม
และแล้วงานประลองดาบก็เริ่มขึ้นที่ลานหน้าพระราชวัง โดยมีกษัตริย์วาเลนเทียร์ องค์หญิงวาเลนไทน์ ประทับอยู่ในพลับพลาด้านหน้าเวทีประลอง โดยมีเหล่าข้าราชบริภาร รายล้อมอยู่รอบๆ เพื่ออารักขา เสียงกลองที่ดังกึกก้องสอดประสานกับเสียงเป่าแตรอันเป็นสัญญาณเริ่มการประลองดังขึ้น เหล่าเจ้าชายและอัศวินคนแล้วคนเล่าที่ขึ้นมาประลองฝีมือดาบกันบนเวที เป็นที่ตื่นตาตื่นใจขององค์หญิงน้อยเป็นอันมาก เพราะนอกจากจะมีอัศวินผู้กล้ามากมาย ยังมีบรรดาเจ้าชายน้อยใหญ่ที่มีรูปโฉมงดงามพากันมาประลองฝีมือ เพื่อหวังพิชิตใจองค์หญิงผู้เลอโฉมที่กล่าวขานกันไปถึงเมืองที่ห่างไกล
การประลองดำเนินมาจนถึงคนสุดท้าย เจ้าชายชินโนะสุเกะ ซึ่งเป็นโอรสแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัยที่อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมา เพื่อยลโฉมองค์หญิงที่ได้รับการกล่าวขานว่างดงามราวกับเทพธิดา
“ ว่ายังไงมีใครหน้าไหนกล้า ขึ้นมาสู้กับข้าอีกมั้ย
ข้าจะนับ 1 ถึง 3 เท่านั้นล่ะนะ ถ้าหากไม่มีผู้ใดขึ้นมาแล้ว ข้าก็จะได้สมรสกับองค์หญิงผู้เลอโฉม
ใช่มั้ยจ๊ะ ดาร์ลิ้ง
”
เจ้าชายเมืองปลาดิบร้องท้าเหล่าอัศวินด้านล่างเวที แล้วหันไปส่งสายตาปิ๊งปั๊งให้กับองค์หญิงวาเลนไทน์ แต่แล้วกลับมีใครคนหนึ่งกระโดดขึ้นมาบนเวที
“ ช้าก่อนเจ้าชาย
ขอโทษทีที่ข้ามาสายไปหน่อย
ขอแนะนำตัวก่อนแล้วกัน ข้าชื่ออลันนา เอาล่ะเรามาตัดสินกันได้เลย ” เสียงทุ้มนุ่มลึก แต่กลับก้องกังวานไปทั่ว เบนความสนใจจากผู้ชมทุกคนมาที่เขา
เจ้าชายชินโนะสุเกะหันมาพบกับผู้ท้าชิงคนสุดท้าย ที่มีรูปร่างเพรียวบาง สมส่วน ในชุดแจ๊กเกตหนังสีดำมีลายดอกไม้สีม่วงอ่อนปักอยู่ที่ด้านหลัง กับกางเกงหนังสีดำเข้าชุด บนหน้าผากมีผ้าคาดศีรษะสีม่วงสด มือทั้งสองข้างกระชับดาบที่มีลักษณะคล้ายเสี้ยวพระจันทร์ ด้วยท่าทางมาดมั่น ข้างฝ่ายกษัตริย์วาเลนเทียร์เมื่อเห็นเครื่องแต่งกายของบุคคลแปลกหน้าผู้นั้นก็รู้สึกคุ้นตา คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“ ท่าทางเจ้าไม่เลวนี่ มาจากเมืองไหนกันล่ะ แต่เสียใจด้วยนะที่ข้าไม่เคยออมมือให้กับใคร แม้แต่หนุ่มน้อยท่าทางอ้อนแอ้นอย่างเจ้า เตรียมตัวรับความพ่ายแพ้ซะเถอะ ”
“ เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป เข้ามาได้เลย
เฮีย!!! ” มือเรียวใช้ปลายดาบกวักเรียกเจ้าชายผู้โอหังอย่างยียวน ชินโนะสุเกะกัดฟันกรอดอย่างโมโหที่ถูกท้าทาย แล้วจึงเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว
ฝีมือดาบของจอมยุทธ์ในชุดแปลกตานั้น ตรึงองค์หญิงวาเลนไทน์ให้หยุดนิ่งอยู่กับเก้าอี้ จนแทบลืมหายใจ ไม่นานนักเจ้าชายชินโนะสุเกะก็เสียหลักพลาดท่าล้มลงกับพื้นเวที โดยมีปลายดาบเสี้ยวพระจันทร์จ่ออยู่ที่ลำคออย่างน่าหวาดเสียว เจ้าชายชินโนะสุเกะถึงกับตาโตจนแทบถลนออกมานอกเบ้า กลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ ด้วยความกลัว
“ ว่ายังไงล่ะท่าน ล้มลงไปกองกับพื้นทำไมเล่า ข้ายังใช้เพลงดาบไปไม่ถึง 2 เพลงเลยนะ ”
เขายิ้มกริ่มอย่างยียวนอีกครั้ง แล้วส่งมือให้เจ้าชายเมืองปลาดิบเพื่อฉุดให้ลุกขึ้น ท่ามกลางเสียงปรบมือโห่ร้องแสดงความยินดีให้กับบุคคลในชุดแปลกอย่างท่วมท้น ไม่เว้นแม้แต่องค์หญิงน้อยที่ถึงกับลุกขึ้นยืนปรบมือให้อย่างลืมตัวแล้วจึงทรุดนั่งลงอย่างเดิม เมื่อเห็นสายตาของพระราชบิดา ที่ทอดพระเนตรมาด้วยแววตาเป็นประกาย อย่างมีเลศนัย
“ มีใครที่จะขึ้นมาท้าชิงกับบุคคลผู้นี้อีกหรือไม่. . . . .( เสียงของทหารมหาดเล็กกล่าวขึ้นพลางมองไปรอบๆ ลานประลอง แต่ไม่มีใครเดินขึ้นมาบนเวทีเลยแม้แต่คนเดียว ). . . . .ถ้าอย่างนั้น ก็เป็นรอบตัดสิน โดยท่านผู้นี้จะต้องประลองดาบกับองค์หญิงของเรา ”
มหาดเล็กหันไปทูลเชิญองค์หญิงให้เสด็จขึ้นมาบนเวที องค์หญิงวาเลนไทน์ก้าวขึ้นมาบนเวทีด้วยท่วงท่าสง่างามราวกับนางพญา เพียงแรกเห็นก็ทำเอาจอมยุทธ์ผู้นั้นถึงกับตกตะลึงในความงามขององค์หญิงถึงกับจ้องอยู่นาน จนองค์หญิงรู้สึกหวั่นไหว
“ เอ้า! ว่าไงล่ะท่าน จะสู้กับข้ามั้ยเนี่ย เดี๋ยวก็ปรับแพ้ไล่ลงจากเวทีซะหรอก ”
องค์หญิงกล่าวด้วยเสียงอันดังกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเอง เขาจึงได้สติ แล้วจึงเตรียมตั้งรับเพลงดาบอย่างมาดมั่นอีกครั้ง
การประลองดาบของทั้งคู่เป็นไปอย่างสูสี ผลัดกันล้มผลัดกันลุก แต่ก็ยังไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่งองค์หญิงพลาดท่าจนเกือบจะพลัดตกจากเวที เขาคว้าเอวบางของเธอไว้ได้ทันท่วงที ก่อนจะล้มกลิ้งไปบนเวทีด้วยกัน โดยร่างของเขาทาบทับอยู่บนร่างที่สั่นเทิ้มด้วยความตกใจของเธอ นัยน์ตาหวานและอ่อนโยนคู่นั้นสอดประสานกับสายตาเธออย่างไม่กระพริบ ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดอยู่บนใบหน้าของเธอจนรู้สึกได้ถึงความร้อนผะผ่าวที่แก้มทั้งสองข้าง
“ องค์หญิงเพคะ
ทรงเป็นอย่างไรบ้างเพคะ ” เสียงของมารีนปลุกให้ทั้งสองหลุดจากภวังค์กลับมาสู่โลกแห่งความจริง เขาจึงลุกขึ้นแล้วยื่นมือให้องค์หญิงจับ แล้วค่อยประคองให้ลุกขึ้นยืน
“ องค์หญิง
ท่านจะตัดสินการประลองในครั้งนี้อย่างไรพะย่ะค่ะ ” เสียงของมหาดเล็กทวงถามเมื่อเห็นองค์หญิงยังคงยืนนิ่ง สบตากับเขาผู้นั้นราวกับต้องมนต์
“ ข้ายอมแพ้
บุคคลผู้นี้มีฝีมือเก่งกาจกว่าข้านัก
ข้า
ยอมรับเขาเป็นสวามี ”
องค์หญิงกล่าวด้วยวาจาอันหนักแน่นแล้วทำท่าเอียงอายเมื่อจบประโยคท้าย ขณะที่เขาคนนั้นยืนยิ้ม โบกไม้โบกมือให้กับบรรดาผู้ชมอยู่ด้วยความดีใจ ถึงกับสะดุ้ง แล้วหันมาด้านข้าง
“ นี่ท่านว่าอะไรนะ!!! ”
“ ก็เจ้าชนะข้า ก็ต้องแต่งงานกับข้าสิ ” องค์หญิงทำท่าเขินอาย บิดไปบิดมา จนเรือนร่างอรชรนั้นแทบจะบิดเป็นเกลียว
“ อะ
ตะ
แต่ว่า
ข้าเป็นผู้หญิงนะ
ท่านจะยอมแต่งงานกับข้างั้นรึ ”
“ ห๊า!!! ผู้หญิง!!! ”
สิ้นเสียงของเขาบรรดาผู้คน ณ ลานประลองนั้นต่างก็อุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน โดยเฉพาะองค์หญิงที่ถึงกับอ้าปากค้าง เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
“ อ๊ะ! นั่นไงข้านึกแล้วเชียวว่าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน
นี่มันชุดเต็มยศของนักดาบหญิงแห่งอาณาจักรคาร์เมโนเลีย นี่เอง เจ้ามาจากเมืองเดียวกับชายาของข้าอย่างนั้นรึ ถึงว่าทำไมชนะลูกหญิงของข้าได้ ”
กษัตริย์วาเลนเทียร์ทรงตรัสออกมาด้วยเสียงอันดัง อย่างตื่นเต้น จนองค์หญิงได้สติ
“ ผู้หญิงงั้นเหรอ
โธ่!
ทำไมฟ้าถึงแกล้งข้าเช่นนี้
ข้าบอกว่าอยากได้เทพบุตรรูปหล่อฝีมือเยี่ยมแล้วเหตุไฉนจึงส่งเขาผู้นี้มาเล่า
แต่ช่างมันเถอะ
ข้าไม่สนแล้วข้ารักท่านเพียงแค่แรกเห็น ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายข้าก็ไม่สนใจ
ท่านจะยอมมาเป็นพระสวามีของข้าหรือไม่ ”
องค์หญิงน้อยเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้า แล้วใช้ปลายดาบชี้ขึ้นไป พลางกล่าวโทษเบื้องบนอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วจึงหันปลายดาบมาจ่อที่คอของเขา และถามอย่างคาดคั้น
“ มะ
ไม่
ไม่ปฏิเสธคร้าบ
บ
”
เขาส่งสายหวานหยาดเยิ้มมาให้กับเธอ พร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ทำเอาองค์หญิงถึงกับอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของเขา กษัตริย์วาเลนเทียร์ทรงแปลกใจในความใจกล้าบ้าบิ่นของพระธิดาที่ถึงขนาดจะรับผู้หญิงมาเป็นสวามี แต่ก็ไม่กล้าคัดค้าน
เพราะถึงยังไงองค์หญิงก็ต้องไม่ยอมแพ้อยู่ดี จึงจำต้องจัดงานอภิเษกสมรสที่แปลกพิสดารเป็นที่โจษจันกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง และแล้วอลันนากับองค์หญิงวาเลนไทน์ก็ครองรักกันอย่างมีความสุข
--------------- The End ----------------
Written By . . . LovePenguin
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น